ผจญภัยบางกระเจ้า กับล้อเล็กทั้ง 10
ห่างหายจากการเดินปั่นจักรยานที่กระเพาะหมูมานาน ล่าสุดน่าจะเป็นวันไหลของชาวไทยเชื้อสายรามัญ เมื่อสงกรานต์ปีที่แล้วโน้น ด้วยความอยากรู้ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เลยคิดทริปวันพฤหัสในห้อง BCS ชวนปั่น แล้ววันอาทิตย์ก็ได้สมาชิกทั้งสิ้น 10 คนพอดี ทั้งมือเก่าและมือใหม่ แอบห่วงอยู่หน่อยๆ เพราะทางแคบต้องอาศัยการทรงตัวที่ดี จึงจะผ่านได้อย่างปลอดภัย
วันอาทิตย์ 8 โมงเช้าท่าเรือวัดบางนานอก เป็นอันรู้กัน เพราะทีม support ช่วยกันลงจุใน google map ให้ในห้องชวนปั่นเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่กระผมกำลังนำรถบรอมตันลงจากหลังรถ ก็มีชายขี่บรอมตัน ผ่านไปพร้อมตะโกน “พี่นี่เอง” ยังไม่ทันขาดคำเสียงหวานๆ จากพี่แอ๋ว ก็กล่าวคำทักทาย จำได้ละตะกี้คือพี่ชม สุดหล่อที่เพิ่งสนุกกับการปั่นบรอมตัน นั้นเอง ข้อดีของบรอมตันคือพกพาสะดวก รถ 1 คันขนบรอมตันได้หลายคัน แล้วแต่ฝีมือการจัดวางของแต่ละท่าน ขี่ได้พร้อมกันทั้งครอบครัว สร้างความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว
คณะพี่เขามากัน 5 คน แวะไปทาน ก๋วยเตี๋ยวฉ่าง ก่อนไปปั่น โถพี่ท่านบอกใบ้มาขนาดนี้ต้องตามไปลอก แต่เดี๋ยวนะ เรายังไม่เจอ 10 คนที่นัดกันมาเลย เห็นหลังไวๆ กำลังยกรถลง ปั่นไปทักทายแล้วเร่งไปรอที่จุดนัดพบดีกว่า เพราะเลยเวลามาพอสมควร หลังจากแนะนำตัวกันทั้ง 9 คน พวกเราลงเรือข้ามฝาก โดยขี่ลงไปได้ในคิวเดียวกับมอเตอร์ไซด์ ไม่ต้องพับรถแล้วยก เพราะเขาเก็บค่าจักรยานพร้อมคนขี่ ตั้ง 7 บาทเท่ากับจักรยานคันใหญ่ๆ พวกเราเลยขอใช้สิทธิให้คุ้ม 7 บาท คณะพี่แอ๋วพี่ชม ตามมาลงเรือลำเดียวกัน
เรือใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็มาจอดที่ท่าวัดบางน้ำผึ้งนอก ซึ่งปกติหลังจากจ่ายค่าโดยสารแล้วผมจะพาเลี้ยวซ้าย เลาะริมน้ำไปยังจุดแรกคือโรงแรมบางกอก ทรีเฮาส์ แต่เที่ยวนี้พี่แอ๋วแนะนำ ผัดไทร้านนวลส้มตำ พร้อมอาสานำไปแล้วบอกว่าอร่อยขนาดพี่มาซื้อกลับบ้านค่ะ พลาดก๋วยเตี๋ยวฉ่าง แลเวผัดไทเราจะพลาดได้ไง สมาชิกที่มีมาเพิ่มที่ท่าเรือ พร้อมบอกว่าวีซ่าเพิ่งอนุมัติ ตกลงปลงใจขึ่จักรยาน ทั้ง 15 บรอมตัน ตามกันเป็นสายออกจากวัดบางน้ำผึ้ง เลี้ยวขวาอย่างว่าง่าย
ร้านนวลส้มตำห่างออกมาจากซอยวัดบางน้ำผึ้งเพียง 300 เมตร ต้องเลี้ยวขวาเข้าทางปูนกว้างไม่ถีงเมตร มีราวกันตกเพียงด้สนเดียว วัดฝีมือกันตั้งแต่ตอนนี้เลย เข้าไป 100 เมตรก็พบร้านเป็นเพิง 2 ชั้นดูธรรมดามาก คุณลุงดุๆ หน่อยถามว่ากลับบ้าน 5 ห่อ ที่เหลือ 10 คนทำไม 5 จาน พวกเราพอได้กลิ่นผัดไทที่เริ่มทำสำหรับกลับบ้านก็รีบบอกลุงไปว่าครบคนจร้า…… หลังจากอิ่มหนำกันแล้วก่อนร่ำลาตณะพี่แอ๋วๆ ฝากลายแทงต่ออีกว่า ล้างปากด้วยข้าวเหนียวมะม่วงร้านสวย นะค่ะ ออกจากซอยเลี้ยวขวาไปอีก 400 เมตร ขอบพระคุณในความกรุณาครับ คราวหน้าขอตามพี่มาด้วยดีกว่า
10 ชีวิตเลี้ยวซ้ายตามกระผมออกมา เพราะพี่แอ๋วส่งรูปและข้อความมาว่า “ขอโทษทีค่ะ พวกพี่เหมามะม่วงไปเกือบหมดแล้ว” พี่ นะ พี่
เราขี่ผ่านวัดบางน้ำผึ้งไปไกลหลายกิโลอยู่ แล้วอยู่ๆ ผมก็เลี้ยวซ้ายเข้าทางเล็กๆ แคบๆ ปั่นตามทางไปเรื่อยจนมาเจอบ้านธูปหอมและ โรงแรมบางกอกทรีเฮาส์ เลยให้สมาชิกพักกันเสียหน่อย มีเสียงบอกว่าอยากกาแฟ ขอไป Hidden wood แต่เอชื่อคุ้นๆ เหมือนเพื่อนผมจะเพิ่งส่งโลเคชั่นตลาดน้ำแห่งใหม่ที่เขากำลังสร้างอยู่ ว่าติดกับ Hidden wood ร้านกาแฟริมน้ำ กระผมเลยใช้ GPS นำไป ซึ่งไม่ยากเลย ตรงตลิดพอถึงแยกถนนมรกต ที่จพาไปออกตลากน้ำบางน้ำผึ้ง เราไม่เลี้ยว ตรงตามทางไปเรื่อยๆ อึดใจเดียวมาจอดที่ Hidden wood ร้านไม่เปิด ครับ เขาเปิด 10 โมง ไม่เป็นไรผมคนเพื่อนเยอะ โทร.หาลูกพี่ บอกลูกพี่ให้บอดเขามาเปิดร้านที พอวางหูไม่ถึง / นาทีก็มีคนวิ่งมาเปิดประตูให้เรา เด็ดจัด ปลัดไม่ต้องบอก
Hidden wood เจ้าของเป็นสถาปนิก ที่ชอบทำกาแฟ ออกแบบสถานที่ได้อิงกับธรรมชาติมาก ทำลายธรรมชาติของป่าชายเลนน้อยที่สุด วิวแม่น้ำก็มองเห็นท่าเรือวัดบางนานอกที่เราข้ามมาชัดเจน อาหารก็อร่อย กาแฟบางเมนูทำได้กลมกล่อม บางเมนูยังต้องปรับสูตร โดยรวมๆ แล้วผ่านครับ มีคนจะมาซ้ำ ชวนกระผมให้จัดอีก เจ้าของร้านลิมถามชื่อบอกว่ารู้จักเพื่อนผม ดูแลอย่างดี พร้อมบอกสนใจบรอมตัน เลยให้ลองขี่วนๆ แล้วงานขายของก็มา 555 ร้านเปิด 10 โมงเช้า เช็คเวลาเปิดก่อนมาเพื่อป้องกันความผิดหวัง
ออกจาก ร้านผมก็ไม่เคยมาอาศัยปากถามทางเอา ก็มาออกที่ทางดิน ซึ่งอนาคตน่าจะเป็นทางเข้าหลักของตลาดน้ำแห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้างอยู่ มีสมาชิกลองล้มบนหญ้าแบบโชว์ล้ม สนุกสนานกันเหมือนอายุพวกเราลดลงเหลือเท่าตอนเรียนประถม ใครไม่มาขี่จักนยานตอนเป็นผู้ใหญ่ จะไม่มีฟีลแบบนี้ และฟีลแบบนี้แหละที่ทำให้ผมรักการจัดทริป ให้สมาชิกได้มาลืมอายุกัน แถมรู้จักเพื่อนใหม่และคุยกันได้อย่างสนิทใจ แต่ที่ผ่านมายังไม่มีใครยืมเงินใครให้เห็นนะครับ 555
สู่ถนนปูนเราปั่นผ่านทางเข้าตลาดน้ำบางน้ำผึ้งอย่างไม่ใยดีเนื่องจากอิ่มแปร้ ช่วงนี้รถค่อนข้างมากเนื่องจากเลยเที่ยงวันแล้ว ที่บางกระเจ้าดีที่ว่าถนนทั้ง 2 ข้างทางตีเส้นสำหรับจักรยาน ถนนสวน 2 เลนมีทางจักรยานอยู่ด้านข้างมีมอไซด์เข้ามามั่วบ้างเป็นครั้งคราว เราขี่ออกมามุ่งหมายว่าจะมาหยุดภ่ายรูปที่ประตูน้ำคลองลัดโพธิ์ และเป็นวิวยอดนิยมของสะพานภูมิพล 2 ภาระกิจเสร็จสิ้นด้วยกล้อง ไลก้า 2 ตัวที่ผลัดกันถ่าย และเก็บภาพในมุมแปลกโดยคุณ J และไม้กายสิทธิ์ของเขา
เราย้อนกลับทางเดิมแต่คนละฝั่ง กระผมพาเลี้ยวซ้ายที่วัดบางกระเจ้านอก แวะพักผ่อนริมคุ้งน้ำเจ้าพระยากันพักใหญ่ กระผมวางกระเป๋ากล้องที่หนักอื้งไว้บนม้าหินริมน้ำ พอหายเหนื่อย ก็นำลิ่วสู่ทางด่วนจักรยานเลาะในสวนอย่างสนุก จนพี่ไนซ์ รีบปั่นตามผมมาบอกว่าผมลืมของสำคัญ ใจตกหายไปที่ตาตุ่มกลับรถรีบเข็นไม่คิดชีวิตเลย จนคุณสตาร์ปิดท้ายขบวนบอกว่า คุณต้นเก็บมาให้ นี่แหละน้ำใจ ขอบคุณพี่บุรุษไปรษณีย์ที่ถามคุณต้นว่าลืมของที่ม้าหิน ตอนที่เขากำลังจะออกมา ล้อเล่นเป็นเรื่องสนุก แต่อาจทำให้โรคหัวใจกำเริบได้ โปรดอย่าทำเกินวันละ 2 ครั้ง
เราใช้เวลาอยู่ในสวนตามทางคันปูนกว้างไม่เกินเมตรในเวลาบ่ายโมงได้อย่างไม่ร้อนเลย นี่คือข้อดีของการมีต้นไม้ ซึ่งบางกระเจ้าไม่ทำให้เสียชื่อว่าเป็นปอดของกรุงเทพ เราสามารถรับรู้ได้เลยทันทีที่เข้ามาในสวน อุณหภูมิลดลงไปทันที 3 องศาเป็นอย่างน้อย
สมาชิกทั้ง 10 มุ่งหน้าสู่พิพิธภัณฑ์ปลากัดเพื่อจะดื่มน้ำกันแต่กระผมเหลือบไปเห็นม้าไม้แห่งเมืองทรอย แต่เอ๊ะทำไมมาอยู่ที่บางกระเจ้า พี่ไนซ์ขอแวะเข้าสำรวจทันที พี่ๆ คนงานใจดีมากชวนเราเข้าไปลองเล่นเครื่องเล่นในตัวม้าไม้ดู มีทั้งโหนสลิง เชือกทรงตัว สไลด์เดอร์ เห็นว่าอีก 2-3 เดือนจึงจะเสร็จสมบูรณ์ เชียร์ครับงานสร้างสรรค์อย่างนี้ ต่อให้เก็บเงินผมก็ว่ามีคนเข้าครับ
เราแวะพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย ซึ่งโทรมไปเยอะจากที่ผมเคยมาจัดงานผู้ถือหุ้นกู้ให้บริษัทใหญ่ของประเทศไทย น่าเสียดายสถานที่ วันนี้ไม่เจอเจ้าของ และไม่ได้ถามพี่ที่ดูแล กลัวว่าจะรบกวน ไว้โอกาสหน้า คุณเบนมากระซิบว่าใกล้หมดเวลาวีซ่า เลยรีบทำเวลาปั่นไปจุดแวะสุดท้ายของวันคือสวนศรีนครเชื่อนขันธ์ สวนที่ตั้งขึ้นตามรับสั่งของ ร.9 ไฮไลท์ของวันนี้คือหอดูนกที่มักจะมีเพื่อนๆ จักรยานมาจับจักรยานนอนแล้วทำท่าสุดที่จะคิดกันออก สมาชิกเราได้ปล่อยแก่กัน เติมพลังงานบวกกันอย่างเต็มที่ เสียงหัวเราะ รอยยิ้มของทั้ง 10 ท่านจะยังอยู่ในบันทึกของ BCS ชวนปั่นวันอาทิตย์เสมอครับ
ยังไม่จบทริปครับ เราปั่นตามทางปูนถนนใหญ่บ้าง เข้าทางด่วน (สะพานปูนในสวน) จนมาถึงท่าเรือ พี่ไนซ์แวะไปซื้อผัดไท เลยแยกกันตรงท่าเรือ ร่ำลากันตอนบ่ายสองโมงกว่าๆ
จนกว่าจะพบกันใหม่ในทริปต่อไป
BCS ชวนปั่นวันอาทิตย์
12 สิงหาคม 2562